
CRAFT BANGKOK 2025
งาน “Crafts Bangkok 2025” เป็นงานแสดงสินค้าศิลปหัตถกรรมฝีมือคนไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 22 มิ.ย. 68 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์สิริกิติ์ กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) หรือ SACIT เพื่อเป็นการสืบสาน สร้างสรรค์ และส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทยสู่สากล ผลักดันประเทศไทยเป็นศูนย์กลางหัตถกรรมแห่งอาเซียน อีกทั้งยังเป็นการช่วยสร้างการรับรู้ ความตระหนักในคุณค่าและภูมิปัญญางานหัตถกรรมไทย ซึ่งถือเป็น SOFT POWER ของประเทศไทยอันล้ำค่ำ กระตุ้นให้เกิดไอเดียสร้างสรรค์ในกลุ่มคนรุ่นใหม่สู่การพัฒนาต่อยอดในเชิงพาณิชย์ โดยได้คัดสรรและรวบรวมสินค้าจากฝีมือการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทยจากทั่วทุกภูมิภาคของไทย
HIGHLIGHTS
ตัวอย่างสินค้าศิลปหัตถกรรมที่มีการออกแบบและพัฒนาภายใต้แนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ESG – Environment, Social, and Governance) โมเดลธุรกิจบีซีจี (BCG – Bio, Circular, Green Economy) และ การคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ (Climate Conscious Craft) เช่น การนำเศษวัสดุมาพัฒนาเป็นเครื่องประดับ การนำวัสดุในพื้นถิ่น (กระจูด) มาพัฒนาเป็นกระเป๋า การนำเศษกระดาษมาพัฒนาเป็นแจกันดอกไม้สำหรับประดับตกแต่ง การนำผักตบชวามาทำเป็นของที่ระลึกตุ๊กตามวยไทย การนำเสื่อมาพัฒนาเป็นกระเป๋าถือ การนำไม้ไผ่มาพัฒนาเป็นโคมไฟประดับตกแต่ง เป็นต้น

สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) ได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าว จึงต้องการผลักดันงานศิลปหัตถกรรมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน มุ่งเน้นการพัฒนาและส่งเสริมผู้ผลิตศิลปหัตถกรรมไทยพัฒนาสู่ธุรกิจสีเขียว โดยจัดกิจกรรม “การศึกษาและพัฒนากระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมอย่างยั่งยืน” ภายใต้โครงการยกระดับคุณภาพศิลปหัตถกรรมไทย ด้วยงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ที่สอดคล้องกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาล (ESG – Environment, Social, and Governance) โมเดลธุรกิจบีซีจี (BCG – Bio, Circular, Green Economy) และ การคำนึงถึงความเป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ (Climate Conscious Craft) กิจกรรมดังกล่าว ได้รวมพลังจากผู้ผลิตงานศิลปหัตถกรรมของ SACIT จำนวน 20 ชุมชนทั่วประเทศ ซึ่งผ่านการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญ เพื่อร่วมประกาศเจตนารมณ์ของผู้ผลิตงานคราฟต์สู่การสร้างสรรค์งานศิลปะหัตถกรรมอย่างยั่งยืนในวันที่ 9 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา

“ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่ยั่งยืน ควรได้รับการยกระดับสู่สากลและสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์และขอรับการทวนสอบเพื่อขึ้นทะเบียนติดฉลากสิ่งแวดล้อมหรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เป็นการรับประกันว่าเป็นสินค้าคาร์บอนต่ำ อันเป็นการแสดงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจเลือกซื้อของผู้ริโภค เพื่อมีส่วนร่วมรับผิดชอบและช่วยบรรเทาปัญหาโลกร้อน” (กล่าวโดย รศ.ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง ในฐานะ ที่ปรึกษาโครงการ และ คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยที่ยั่งยืน)

เรียบเรียงโดย รศ. ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง
ผู้อำนวยการ วีกรีน คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีกรีน เคยู จำกัด อีเมล rattanawan@vgreenku.com