Food Waste วิกฤต”ขยะอาหาร” ด้วยขอบเขตในการประเมินตามมาตรฐานสากล

ทราบหรือไม่ว่า ในแต่ละปี มีขยะอาหารเกิดขึ้นมากกว่า 1,300 ล้านตันหรือ 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตได้ทั่วโลก!

นอกจากถูกทิ้งอย่างสูญเปล่าแล้ว ยังสร้างก๊าซเรือนกระจกถึง 8% สำหรับในประเทศไทยกว่า 60% ของขยะมาจากขยะอาหาร นั้นหมายความว่า คนไทย 1 คนสร้างขยะอาหารสูงถึง 254 กิโลกรมต่อปีเลยทีเดียว จึงเป็นที่มาของการศึกษาวิจัย ประเมินปริมาณของขยะอาหาร การคำนวณดัชนีปริมาณขยะอาหาร และการจัดทำค่าเส้นฐานปริมาณขยะอาหารระดับชาติ ตามมาตรฐานสากล เพื่อรับมือกับวิกฤษ “ขยะอาหาร” ได้อย่างถูกวิธี

ทำความรู้จัก “ขยะอาหาร” (Food Waste) และ อาหารส่วนเกิน (Food Surplus)

ขยะอาหาร หมายถึง อาหารที่ถูกทิ้งในห่วงโซ่อาหาร (Food Chain) แยกตามส่วนที่กินได้ (Edible) และส่วนที่กินไม่ได้ (Non-Edible) ครอบคลุมวัตถุดิบอาหารแปรรูปบางส่วน และอาหารแปรรูปจากทั้งในส่วนของผู้ค้าปลีกและผู้บริโภค ได้แก่ อาหารส่วนที่รับประทานไม่ได้และถูกทิ้งจากร้านค้าปลีก (Retail)การรับประทานอาหารนอกบ้าน (Food Service) และการรับประทานอาหารที่บ้าน (Household)

โดยการทิ้งขยะอาหารแยกตามสถานที่ปลายทางของขยะอาหาร ได้แก่ หลุมฝังกลบ (Landfill), การเผา (Control Combustion), การกำจัดของเสียผ่านท่อน้ำทิ้ง (Sewer), การทิ้งขยะ การทิ้งสิ่งที่ไม่ต้องการ (Litter/Discards/Refuse), การหมักย่อยสลายของสารอินทรีย์ภายใต้สภาวะที่ปราศจากออกซิเจน (Co/Anaerobic Digestion), การหมักย่อยสลายของสารอินทรีย์ภายใต้สภาวะที่มีออกซิเจน (Compost/Aerobic Digestion) และการฝังดิน (Land Application) เป็นต้น

และสำหรับ อาหารส่วนเกิน (Food surplus) หมายถึง อาหารส่วนที่นำไปกระจายอีกครั้ง สำหรับการบริโภคของคน การใช้เป็นอาหารสัตว์ การใช้เป็นวัสดุชีวภาพหรือกระบวนการชีวเคมี

ขอบเขตการประเมินขยะอาหาร (Food Waste)

UNEP (2021) ได้ให้คำนิยามและกำหนดขอบเขตดัชนีความสูญเสียอาหารระดับชาติ และระดับโลก ซึ่งดัชนีความสูญเสียอาหารระดับโลก ครอบคลุมความสูญเสียของผลิตผลตั้งแต่แปลงเกษตรกร ภายหลังการเก็บเกี่ยว ขั้นตอนการขนส่ง การเก็บรักษา การกระจายผลิตผล การแปรรูป การบรรจุ และการขนส่งไปยังร้านค้าปลีก แต่ไม่รวมถึงความสูญเสียที่ร้านค้าปลีก ในขณะที่ดัชนีความสูญเสียอาหารระดับประเทศ จะครอบคลุมตั้งแต่การเก็บเกี่ยว ไปถึงการขนส่งไปยังร้านค้าปลีก ส่วนดัชนีขยะอาหาร พิจารณาปริมาณขยะอาหาร ณ ร้านค้าปลีก การรับประทานอาหารนอกบ้าน และการรับประทานอาหารที่บ้าน

ภาพ ขอบเขตการประเมินตัวชี้้วัดขยะอาหาร ตาม SDG 12.3 (UNEP, 2021)

10 วิธีการตรวจวัดและประเมินขยะอาหาร (Food Waste) ตามคำแนะนำของ UNEP  

1.การชั่งน้ำหนักโดยตรง (Direct Measurement) คือ การใช้เช็คเครื่องมือชั่งน้ำหนักของขยะอาหาร

2.การคัดแยกองค์ประกอบขยะอาหาร (Waste Composition) คือ การคัดแยกขยะอาหาร ออกจากวัสดุอื่น เพื่อที่จะกำหนดน้ำหนัก และองค์ประกอบของขยะอาหาร

3.การประเมินจากปริมาตร (Volumetric Assessment) คือ การตรวจวัดปริมาณขยะอาหารจากปริมาตรของถังที่บรรจุขยะอาหาร

4.การทำสมดุลมวล (Mass Balance) คือ การดุลมวลสารของปัจจัยการผลิต เช่น วัตถุดิบที่ใช้ในโรงงาน และผลผลิต เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ได้ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงระดับสต็อก และการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักของอาหารระหว่างการแปรรูป

5.การสแกน/การนับ (Counting/Scanning) คือ การประเมินจำนวนรายการที่ประกอบขึ้นเป็นขยะอาหาร และใช้ผลลัพธ์เพื่อกำหนดน้ำหนักของขยะอาหาร

6.การจดบันทึก (Diaries) คือ การจดบันทึกประจำวันข้อมูลขยะอาหาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

7.การบันทึก (Records) โดยใช้ข้อมูลที่ได้รับการจดบันทึก หรือข้อมูลที่มีการเก็บรวบรวมไว้เป็นประจำ เช่น ใบเสร็จการขนย้ายของเสีย หรือสมุดบันทึกของคลังสินค้า

8.การสำรวจ (Surveys) รวบรวมข้อมูลปริมาณขยะอาหาร หรือข้อมูลอื่นๆ เช่น ทัศนคติ ความเชื่อ พฤติกรรมที่รายงานด้วยตนเอง จากบุคคลหรือหน่วยงานผ่านชุดคำถามที่่มีโครงสร้าง

9.แบบจำลอง (Modeling) โดยใช้วิธีการทางคณิตศาสตร์ ตามปฏิสัมพันธ์ของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการเกิดขยะอาหาร

10.ข้อมูลตัวแทน (Proxy Data) โดยใช้ข้อมูลปริมาณขยะอาหารที่อยู่นอกขอบเขตของข้อมูลขยะอาหารที่ต้องการ เช่น ข้อมูลเก่า ข้อมูลจากประเทศอื่น หรือโรงงานอื่นๆ เพื่่ออนุมานปริมาณขยะอาหารภายในขอบเขตการศึกษา

ภาพ วิธีการประเมินปริมาณขยะอาหาร (UNEP, 2021)

การระบุสถานที่ปลายทางของขยะอาหาร

โดยจะแบ่งเป็นการย่อยสลายแบบไร้อากาศ การหมักแบบเติมอากาศ การถมที่ การฝังกลบ การทิ้ง และการบำบัดขยะ ขอบเขตในการพิจารณา คือ ห่วงโซ่อุปทาน ได้แก่ การผลิตอาหาร (โรงงานแปรรูปอาหาร) ร้านค้าปลีก (ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์เซ็นเตอร์) ตลาดสด การรับประทานอาหารนอกบ้าน (กลุ่มร้านอาหาร ภัตตาคาร คาเฟ่ และกลุ่มโรงแรม เกสต์เฮาส์) และการรับประทานอาหารที่บ้าน

ภาพ สถานที่่ปลายทางของขยะอาหาร (UNEP, 2021)

การคำนวณค่าเส้นฐานปริมาณ และดัชนีขยะอาหารระดับชาติ

คำนวณปริมาณขยะอาหารจากการสุ่มตัวอย่างให้เป็นข้อมูลปริมาณขยะอาหารระดับชาติ โดยวิธีการใช้ Normalized Amount เช่น ในรูปของปริมาณขยะอาหาร ต่อปริมาณอาหารที่ผลิตได้ หรือปริมาณความสูญเสียต่อจำนวนประชากร สำหรับแต่ละหน่วยการผลิตที่เกิดขยะอาหาร มาใช้ในการคำนวณ โดยการ Scale Up ข้อมูล โดยวิธีนี้จะเริ่มจากการหาปริมาณความสูญเสีย และขยะของแต่ละหน่วยการผลิตที่่เกิดความสูญเสียด้วย Normalization Factor เช่น ปริมาณอาหารที่ผลิตได้ของแต่ละหน่วย หรือจำนวนประชากรของแต่ละหน่วย

ซึ่งจะให้ผลเป็นค่า Normalized Amount เช่น ในรูปของปริมาณความสูญเสียต่อปริมาณอาหารที่ผลิตได้ หรือปริมาณขยะอาหารต่อจำนวนประชากร ของปริมาณความสูญเสียสำหรับแต่ละหน่วยการผลิตที่เกิดขยะอาหาร จากนั้นหาค่าเฉลี่ยแล้วนำไปคูณกับปริมาณอาหารทั้งหมด หรือปริมาณประชากรทั้งหมด เพื่อหาค่าปริมาณขยะอาหารรวมทั้งหมดได้ สามารถดำเนินการได้โดย

  • คำนวณค่าเฉลี่ยปริมาณขยะอาหารในระดับครัวเรือน ของประเทศไทย
  • หาข้อมูลปริมาณอาหารที่ผลิต
  • นำไปคำนวณปริมาณขยะอาหารในระดับครัวเรือน ต่อปริมาณอาหารที่ผลิตได้ จากนั้นนำไปคูณกับปริมาณอาหารทั้งหมด หรือปริมาณประชากรทั้งหมดเพื่อหาค่าปริมาณขยะอาหารรวมทั้งหมด

ค่าเส้นฐานปริมาณขยะอาหารระดับชาติ

ผลการประเมินค่าเส้นฐานปริมาณขยะอาหารระดับชาติ อ้างอิงข้อมูล ปี 2564 พบว่า ในประเทศมีปริมาณขยะอาหารประมาณ 12 ล้านตัน คิดเป็น 142 กก./คน/ปี จากการบริโภคของครัวเรือน การบริการด้านอาหาร และการจัดจำหน่ายอาหาร

แหล่งที่มาของขยะอาหาร เกิดจากการบริโภคของครัวเรือนเป็นหลัก คิดเป็น 77% รองลงมา คือ การบริการด้านอาหาร 18% และการจัดจำหน่ายอาหาร 5% โดยมีดัชนีขยะอาหารภาคครัวเรือน 97 กก./คน/ปี ดัชนีขยะอาหารบริการด้านอาหาร 29 กก./คน/ปี และดัชนีขยะอาหาร การจัดจำหน่ายอาหาร 16 กก./คน/ปี

การปรับปรุงค่าเส้นฐานขยะอาหารระดับชาติ ทำโดยการประเมินปริมาณขยะอาหาร ทุกๆ 3-5 ปี พิจารณาจากการพัฒนาเทรนด์ผู้บริโภค เทคโนโลยีการจัดการขยะอาหาร รวมทั้งปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดขยะอาหาร เช่น การเพิ่มค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะอาหาร เป็นต้น

สามารถสอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติมได้ที่ VGREEN KU

ที่มาข้อมูล : บริษัท วีกรีน เคยู จำกัด (VGREEN KU Co., Ltd.)

ผู้เขียน: รศ.ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง และคณะ

สนับสนุนโดย: สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) (สวก.)