ฉลากสิ่งแวดล้อม คืออะไร ?
ฉลากสิ่งแวดล้อม บอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ให้แก่ผู้บริโภครับทราบ และสามารถเลือกซื้อสินค้าและบริการที่ช่วยลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการบริโภค ในขณะที่ผู้ผลิตก็จะได้รับผลประโยชน์ในแง่กำไร จากการลดต้นทุนที่เกิดจากการลดทรัพยากร พลังงาน และของเสีย ในการผลิตสินค้าหรือให้บริการ โดยฉลากสิ่งแวดล้อมจะสอดคล้องตามมาตรฐานสากลที่ยอมรับในต่างประเทศ อาทิ ISO – International Organization for Standardization
ฉลากสิ่งแวดล้อม มี 3 ประเภท
ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 1
เป็นฉลากที่บ่งบอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยจะพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโดยตลอดวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Consideration) และตรวจประเมินโดยบุคคลที่สาม (Third party assessment) ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ในประเทศไทย มีฉลากนี้ คือ ฉลากเขียว เป็นฉลากที่มอบให้แก่ผลิตภัณฑ์ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์ที่ทำหน้าที่อย่างเดียวกันโดยที่คุณภาพยังอยู่ในระดับมาตรฐานที่กำหนด ประยุกต์ใช้กับสินค้าและบริการหลายประเภท ยกเว้น อาหาร ยา และ เครื่องดื่ม
ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 2
เป็นฉลากที่ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย หรือ ผู้ส่งออก จะเป็นผู้บ่งบอกความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม หรือแสดงคุณค่าทางสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตนเอง (Self-declared environmental claims) ซึ่งอาจจะแสดงในรูปของข้อความ หรือสัญลักษณ์ รูปภาพ เช่น การใช้พลังงานอย่างประหยัด การนำกลับมาใช้ใหม่ เป็นต้น
ฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3
เป็นฉลากที่บ่งบอกถึงผลกระทบของผลิตภัณฑ์ต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการแสดงข้อมูลสิ่งแวดล้อมโดยการใช้เครื่องมือการประเมินผลกระทบตลอดวัฏจักรชีวิตของสิ่งแวดล้อม (LCA: Life Cycle Assessment) เข้ามาประเมิน ตามมาตรฐาน ISO 14040 Environmental management, Life cycle assessment — Principles and framework และตรวจประเมินโดยบุคคลที่สาม ที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย
การตลาดวัสดุก่อสร้างด้วยฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3
ระบบรับรองอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกำหนดให้มีการแสดงข้อมูลสิ่งแวดล้อม (EPD: Environmental Product Declaration) ของวัสดุก่อสร้างและวัสดุประกอบอาคารด้วยการประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA: Life Cycle Assessment) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์เชิงสิ่งแวดล้อม ใช้ในการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นได้โดยตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์พิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลายประเด็น แสดงผลการประเมินวัฏจักรชีวิต เป็นค่าดัชนีบ่งชี้ขนาดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเชิงปริมาณ
การพัฒนาฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 ในประเทศไทย
จากแนวโน้มความต้องการอาคารประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Green buildings) มากขึ้นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง ต้องการพัฒนาศักยภาพให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการตลาดอาคารเขียวและเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและวัสดุประกอบอาคาร ทำให้นำไปสู่การพัฒนาโครงการวิจัย “การประเมินวัฏจักรชีวิตและฉลากสิ่งแวดล้อมเพื่อจัดทำห้องสมุดออนไลน์ด้านวัสดุก่อสร้างเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับงานอาคารเขียว (Life Cycle Assessment and Eco Labelling for Eco Building Materials Online Library to Support Green Buildings)” โดย ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (วีกรีน) คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมมือกับ บัณฑิตวิทยาลัยร่วมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (JGSEE) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.)และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนจาก สวทช. (งบประมาณปี 2562)ผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างนำร่องติดฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 กลุ่มแรกของประเทศไทย
ประเทศไทย กำหนดให้แสดงข้อมูล 3 กลุ่มผลกระทบ โดยพิจารณาจากการให้ความสำคัญต่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามมุมมองของนักนโยบายสิ่งแวดล้อม (มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน และ สถานภาพของปัญหาตามแนวคิด distance-to-target)
• Global Warming Potential (CO2e)
อ้างอิงข้อกำหนดและวิธีการประเมินจาก แนวทางการประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ โดย องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) ในปีล่าสุด
• Stratospheric Ozone Depletion Potential (kg CFC-11)
อ้างอิงข้อกำหนดและวิธีการประเมินจาก ISO 14040, 44
• Eutrophication Potential (kg nitrogen or kg phosphate)
อ้างอิงข้อกำหนดและวิธีการประเมินจาก ISO 14040, 44
ในโครงการ สวทช. มีผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างนำร่องติดฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 กลุ่มแรกของประเทศไทย ครอบคลุม 32 ผลิตภัณฑ์ จาก 4 บริษัทจากนั้น ทำการส่งมอบผลการดำเนินงานให้กับ มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เพื่อพัฒนาต่อยอดยกระดับเป็นระบบรับรองและให้การรับรองฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3 ของประเทศไทย
การสมัครขอรับการรับรองและขึ้นทะเบียนติดฉลากสิ่งแวดล้อมประเภทที่ 3
ส่วนผู้ประกอบการที่สนใจนำผลิตภัณฑ์ไปยื่นขอรับการรับรองเพื่อขึ้นทะเบียนติดฉลาก LCA for EPD นั้น สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ มูลนิธิสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย :02 503 3333 ต่อ 524 | arin@tei.or.th
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่
• หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการรับรองฉลากข้อมูลสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ (EPD: Environmental Product Declaration)
• ประกาศรายชื่อผู้ทวนสอบ
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.tei.or.th/th/ourwork_project_detail.php?pid=173&aid=11
สามารถสอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติมได้ที่ VGREEN KU
ที่มาข้อมูล : เรียบเรียงโดย รศ. ดร.รัตนาวรรณ มั่งคั่ง (ผู้อำนวยการ วีกรีน คณะสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกรรมการผู้จัดการ บริษัท วีกรีน เคยู จำกัด)