เมื่อขยะอาหารล้นโลก (Food Waste) ความท้าท้ายที่ต้องเผชิญ สู่การบริหารจัดการขยะอาหาร เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ที่ผ่านมา ไทยมีการสูญเสียอาหารจนกลายเป็นขยะ จากการผลิตอาหารไม่ได้คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด (Food Loss) อยู่ที่ 30% นับเป็นตัวเลขที่สูงมาก เมื่อเทียบกับประชากรกลุ่มที่ไม่มีอาหารบริโภค และอีกส่วนเกิดจากการบริโภคไม่ทัน หรือบริโภคไม่หมด ทำให้ต้องทิ้งจนกลายเป็นขยะอาหาร โดย ‘บุฟเฟต์’ คือหนึ่งในตัวการสำคัญ ขณะเดียวกัน อาหารไทยก็เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในระดับโลก ส่งผลดีต่อภาพรวมของธุรกิจอาหาร ตั้งแต่สตรีทฟู้ด หาบเร่แผงลอย ไปจนถึงระดับอุตสาหกรรม ที่เรียกได้ว่าเติบโตทั้งห่วงโซ่
แต่ปัญหาที่ตามมาคือ ‘ขยะอาหาร’ ที่เพิ่มขึ้นเป็นเป็นเงาตามตัว หากไทยยังไม่มีแผนสำหรับการจัดการอย่างเป็นระบบ ปัญหานี้อาจยิ่งรุนแรงและกลายเป็นวิกฤตที่รับมือได้ยากในอนาคต
จึงเกิดเป็นที่มาของแผนงานวิจัยจาก สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. เรื่อง “การบริหารจัดการขยะอาหารเชิงบูรณาการสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” มีวัตถุประสงค์ในการประเมินดัชนีขยะอาหาร ระดับชาติและโลก ตามมาตรฐานสากล เพื่อจัดทำเส้นฐานปริมาณขยะอาหาร ระดับชาติ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย
ซึ่งเป็นประโยชน์ในการตรวจติดตาม ประเมินผล และรายงานความก้าวหน้าต่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนข้อที่ 12.3.1b เรื่องความสูญเสียและขยะอาหาร รวมทั้งทำการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและปัจจัยผลักดันที่เป็นสาเหตุของการเกิดขยะอาหาร
ปัจจัยที่เป็นอุปสรรค หรือข้อจำกัดต่อการจัดการขยะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพของภาคส่วนต่างๆ มาตรการลดปริมาณขยะอาหารในทุกภาคส่วน
งานวิจัยที่เกี่ยวกับขยะอาหาร
การจัดทำค่าเส้นฐานปริมาณขยะอาหารระดับชาติ มีหลักการสุ่มตัวอย่างเชิงสถิติ ที่ค่าความเชื่อมั่น 95% และค่าความผิดพลาดไม่เกิน 10% เพื่อให้ได้ตัวแทนข้อมูลที่ดีในระดับประเทศ รวบรวมข้อมูลโดยการสัมภาษณ์และการตรวจวัดจริงอย่างน้อยร้อยละ 10 ของจำนวนตัวอย่างทั้งหมด พิจารณาปริมาณขยะอาหาร 8 วัน ต่อเนื่อง คัดแยกขยะอาหารเป็นส่วนที่กินไม่ได้ และส่วนที่กินได้ ทำการชั่งน้ำหนัก หน่วยเป็น กก./วัน/คน ทำการตรวจวัดจริง 2 ครั้ง แบ่งเป็น ฤดูร้อน (กลางเดือน ก.พ. ถึง กลางเดือน พ.ค.) และฤดูฝน (กลางเดือน พ.ค. ถึง กลางเดือน ต.ค.) ครอบคลุมตัวอย่างจากหน่วยธุรกิจ ได้แก่ 1.ครัวเรือน 2.ร้านอาหาร 3.โรงแรม 4.สถานศึกษา 5.ร้านค้าปลีก 6.ตลาดสด และ 7.โรงงานแปรรูปอาหาร สำหรับการวิเคราะห์พฤติกรรม
รวบรวมข้อมูลโดยการจัดทำแบบสอบถาม จำนวน 952 ชุด ครอบคลุมทุกกลุ่มผู้บริโภคในทุกภูมิภาค มีการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้เกี่ยวข้องหลัก ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหารร้านค้าปลีก ตลาดสด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ครัวเรือน จำนวน 436 ราย เพื่อจำแนกปัจจัยที่เป็นอุปสรรคหรือข้อจำกัดต่อการจัดการขยะอาหาร นอกจากนี้ มีการวิจัยเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับมาตรการส่งเสริมให้ครัวเรือนมีการคัดแยกขยะอาหารที่ต้นทาง 2 พื้นที่ใน กทม. ได้แก่ เขตราชเทวี ซี่งมีบริบทความเป็นเมือง และเขตหนองจอก ซึ่งมีบริบทความเป็นชานเมือง และพื้นที่เกษตรกรรม
ผลการศึกษาพบว่า ประเทศไทยมีปริมาณการเกิดขยะอาหารประมาณ 12 ล้านตันต่อปี มาจากภาคครัวเรือนเป็นหลัก (77%) ตามด้วยภาคธุรกิจบริการด้านร้านอาหาร (18%) และภาคธุรกิจการจัดจำหน่ายอาหาร (5%)
ดัชนีขยะอาหาร ระดับชาติ 142 กก./คน/ปี (ดัชนีขยะอาหารภาคครัวเรือน 97 กก./คน/ปี ดัชนีขยะ อาหารบริการด้านอาหาร 29 กก./คน/ปี และดัชนีขยะอาหารการจัดจำหน่ายอาหาร 16 กก./คน/ปี)
ขยะอาหารของครัวเรือน มีสาเหตุหลักจากขั้นตอนการรับประทานอาหาร เพราะการทานอาหารแบบหลากหลาย การไม่ทานวัตถุดิบบางอย่าง และการที่อาหารมีรสชาติไม่ถูกปาก พบว่า 46% เป็นส่วนที่ยังสามารถรับประทานได้ โดยถูกนำไปกำจัดโดยเทศบาล (84%) ทำเป็นอาหารสัตว์ (13%) ทำปุ๋ยหมัก (2%) และเทลงท่อน้ำทิ้ง (1%) อย่างไรก็ตาม พบว่าการให้ข้อมูลกับครัวเรือนว่าทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะนำขยะอาหารที่ได้รับการคัดแยกไปใช้ประโยชน์เพื่อหมักปุ๋ยและนำไปบำรุงต้นไม้ ทำให้มีการแยกขยะอาหารเพิ่มขึ้น
พบว่ามีการคัดแยกขยะอาหารเพิ่มขึ้น 20%
- เขตราชเทวี 3.32 กิโลกรัม/ครัวเรือน/สัปดาห์
- เขตหนองจอก 0.49 กิโลกรัม/ครัวเรือน/สัปดาห์
จากผลการดำเนินดังกล่าว นำไปสู่ข้อเสนอแนะเชิงนโนบาย รายละเอียดดังนี้
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านเทคโนโลยี สำหรับ Food Waste
1. การสร้างแอปพลิเคชัน เพื่อสนับสนุนการร่วมมือของครัวเรือน แสดงจุดทิ้งขยะอาหารต่างๆ บนแผนที่ รอบเวลาที่รถเก็บขยะอาหารไปจัดเก็บในแต่ละจุด การแสดงตำแหน่งของรถเก็บ ขยะแบบ Real time ฯลฯ การสร้างแพลตฟอร์มในการจัดทำฐานข้อมูล เพื่อการเชื่อมโยงระหว่างภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการรวบรวมข้อมูล วัตถุดิบ สินค้า และอาหารที่ตกเกรด-ใกล้หมดอายุ – ไม่ได้คุณภาพ แต่ยังสามารถรับประทานได้ นำมาขายในราคาพิเศษหรือบริจาค รวมถึงการนำไปทำให้เกิดประโยชน์ด้านอื่นๆ เช่น อาหารสำหรับหนอน แมลงวันลาย
2. การสร้างเครื่องกำจัดเศษอาหาร พิจารณาเทคโนโลยีและราคาให้เหมาะสมในแต่ละหน่วยธุรกิจ
3. การให้ข้อมูลกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับเทคโนโลยีในการจัดการขยะอาหาร อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามหลักวิชาการ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านสังคม
1. การสร้างความตระหนักรู้และทัศนคติของผู้บริโภคเกี่ยวกับรูปลักษณ์ภายนอก สีสรรของอาหาร ว่าไม่เป็นปัญหาในการนำไปบริโภค
2. การสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปยังภาคประชาชน เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับผลกระทบของขยะอาหาร เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ และสร้างจิตสำนึกในการป้องกันการเกิดขยะอาหาร
3. การกำหนดให้สถาบันการศึกษาทุกระดับชั้น มีการสอดแทรกเนื้อหาในการเรียนการสอน เกี่ยวกับการคัดแยกขยะที่ต้นทางโดยเฉพาะ การไม่ทิ้งขยะอาหารปะปนไปกับขยะอื่นๆ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์สร้างมูลค้าเพิ่มได้
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านเศรษศาสตร์ สำหรับขยะอาหาร (Food Waste)
1. การสนับสนุนงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับการจัดการขยะอาหารอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะเรื่องตั้งถังขยะ เรื่องตั้งถังขยะแบบแยกประเภทให้มีจำนวนเพียงพอกับปริมาณขยะ ระบบโลจิสติกส์และเทคโนโลยีการจัดการขยะอาหารตามหลักวิชาการ
2. การให้แรงจูงใจกับคนในชุมชน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการแยกขยะอาหาร การให้ปุ๋ยหมักที่ทางเทศบาลผลิตจากขยะอาหาร/ขยะอินทรีย์ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
3. การให้แรงจูงใจด้านภาษีแก่ห้างค้าปลีกสมัยใหม่/ซูเปอร์มาร์เก็ตที่บริจาคอาหารส่วนเกินหรือ สามารถจัดการขยะอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายด้านกฎหมาย
1. การออกกฏหมายเรื่องความรับผิดชอบในการจัดการขยะอาหารของทุกภาคส่วน อาทิเช่น การคัดแยกขยะที่ต้นทาง โดยกำหนดให้หมู่บ้านมีมาตรการส่งเสริมการคัดแยกขยะอาหาร โดยจัดหาถุงพลาสติกสีเฉพาะ ในการรวบรวมขยะอาหารและจัดการเชิงระบบ ตั้งแต่การรวบรวมการเก็บขน การนำไปใช้ประโยชน์ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม
2. การออกกฏหมายเรื่องข้อกำหนดในการบริจาค และรับบริจาคอาหารส่วนเกิน รวมทั้งมาตรฐานความปลอดภัยของอาหารที่บริจาค และกฎหมายคุ้มครอง ผู้บริจาคอาหารส่วนเกิน การนำขยะอาหารไปใช้ประโยชน์สร้างมูลค่าเพิ่ม และมาตรการส่งเสริมให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ
3. การออกกฏหมายเรื่องข้อกำหนดค่าใช้จ่าย ในการให้บริการกำจัดขยะตามปริมาณขยะอาหารที่ต้องนำไปกำจัด โดยใช้หลักการผู้ก่อมลพิษเป็นผู้จ่าย (Polluter Pays Principle) โดยการจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่อหน่วย (Pay As You Throw)
สามารถสอบถามข้อมูลบริการเพิ่มเติมได้ที่ VGREEN KU
ที่มาข้อมูล : บริษัท วีกรีน เคยู จำกัด (VGREEN KU Co., Ltd.)